วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความใฝ่ฝัน เมื่อครั้งยังละอ่อนต่อนแต่น


          สาเหตุที่อยากเล่าถึงความใฝ่ฝันของตนเอง เมื่อครั้งยังละอ่อนต่อนแต่น ( สมัยเด็กมว๊ากก ) ก็เพราะมีโอกาสได้คลุกคลีตีโมงกับสิ่งทีตัวเองเคยรัก และเคยสัมผัส สมัยยังละอ่อน นั่นคือ "งานศิลปะ" 

          นับว่าโชคดีที่มีโอกาสได้มาเจอและรู้จักกับบุคคลที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในงานศิลปะ ถึงขั้นมีร้านแสดงงานศิลปะ และจำหน่ายงานศิลปะ  "ร้านสุริยัน จันทรา" โดย พี่โอ ...



          และเหตุที่ได้มาคลุกคลี ก็เพราะต้องรับบทบาทเป็นตัวแทนเจ้าของร้านแทนพี่เค้า ช่วงที่พี่เค้าไปลั้ลลาเมืองนอก เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ ทำให้ตัวเองได้ซึมซับงานศิลป์ ที่อยู่ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดที่สุดแสนสวยงาม งานเพ้นท์ตุ๊กตาดินเผาอันน่ารักมากมาย รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านที่ประดับตกแต่งแบบงานศิลป์ อันหรูหรา และด้วยระยะเวลาร่วมหนึ่งเดือน ที่ได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ วันละ กว่า สิบชั่วโมง ทำให้ความทรงจำในวัยเด็กพรั่งพรูกลับมาในสมองซีกขวา 



          จำได้อย่างแม่นยำว่า สมัยตัวเองเรียน ป.3 มีวิชาที่ชอบเรียนมากกว่าวิชาใด นั่นคือ วิชาศิลปะ ( ไม่แน่ใจว่าสมัยนี้ยังมีอยู่มั้ยน๊อ ) เป็นวิชาทีตัวเองมีความสุขที่สุดเมื่อถึงคาบเรียน เพราะจะได้ใช้จินตนาการตามแต่ที่เราชอบ ละเลง ไปบนกระดาษสีขาว ๆ ที่รองด้วยกระดานไม้สีน้ำตาลเข้ม และหนีบด้วยที่หนีบสีดำใหญ่ ๆ (คลาสสิคมาก) สมัยนั้นสีที่ชอบใช้คือสีเทียนครับ เพราะราคาถูก หาซื้อได้ตามตลาดบ้านนอก กล่องไม่เกิน 5 บาท ส่วนสีไม้แพงมาก ไม่สามารถหามาไว้ในครอบครองได้ ใช้วิธียืมเพื่อนเอาเวลาจะตัดเส้น ส่วนสีน้ำ จำได้ลาง ๆ ว่า ได้หัดใช้ตอนอยู่ ป.5 เป็นอะไรที่สนุกมาก เพราะได้เลอะเทอะ ตามประสาเด็ก ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเท่มากเวลาหอบกระดานไม้ที่มีกระดาษขาวหนีบติดอยู่ ไปขึ้นรถโดยสาร (จิง ๆ ทุลักทุเลมากกว่า เพราะกระดาษแทบจะใหญ่กว่าตัว ) แต่วินาทีนั้น ไม่คิดหรอกว่ามันลำบาก คิดแค่ว่า ตรูเท่มากมาย ..... จนถึง ป.5 ทางโรงเรียนให้มีกิจกรรมพิเศษตอนเย็นหลังเลิกเรียน หนึ่งในกิจกรรมนั้นคือ วาดภาพ .. ไอ้เราก็ไม่รอช้า รีบลงชื่อสมัครทันที ทั้งที่รู้ว่า ต้องได้กลับบ้านค่ำลงไปอีก แต่ก็ยอม เพราะอยากวาดภาพ อยากทำงานศิลปะ และที่สำคัญคืออยากหอบกระดาษไม้กับกระดาษขาวไปโรงเรียนทุกวัน !



          พอขึ้นชั้น ม.1 สิ่งที่ตัวเองชอบ ต้องหยุดหมด เพราะการเรียนที่หนักหน่วง ทำให้ต้องละทิ้งสิ่งที่เป็นทั้งงานอดิเรก และเป็นทั้งตัวตนของตัวเอง เอาเวลาไปทุ่มเทให้กับการเรียน ... เรื่องงานศิลปะ เลยค่อย ๆ ห่างจากชีวิตไปทีละนิด ๆ ๆ  จนถึงทุกวันนี้



          จวบจนปัจจุบัน อายุอานามก้อผ่านเลขสามนำหน้ามาหลายปีแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้สัมผัสกับงานศิลป์อีกครั้ง ภาพความทรงจำเมื่อครั้นวัยเยาว์เลยพรั่งพรูเข้ามา ประกอบกับได้มีโอกาสเม้าท์มอยกับพี่ศิลปินชั้นเซียน ไม่ว่าจะเป็นพี่อนันต์ พี่หมิง สุธี ที่ฝีไม้ลายมือในการทำงานศิลป์ขั้นเทพ ทำให้ตัวเองอยากกลับไปทำงานศิลป์ แต่ก้อไม่รู้ว่า จะสามารถทำได้หรือเปล่า เพราะค่อนข้างแน่ใจว่า การทำงานศิลป์ ทำให้ตัวเองสงบ และมีสมาธิ รวมถึงมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ และเกลาจิตวิญญาณให้นิ่ง เลยตัดสินใจกับตัวเองอย่างแน่วแน่ว่า จะลองหาทำงานศิลป์ในแบบฉบับของตัวเอง อาจเริ่มจากงานชิ้นเล็ก ๆ เพื่อฝึกฝนฝีมือไปทีละนิด ๆ ไม่แน่ ในวันหน้า ผมอาจมีชื่อเสียง ในด้านงานศิลป์กับเค้าบ้างก็ได้ ใครจะรู้เน๊อะ ....

ต้องขอขอบคุณงานศิลป์สวย ๆ จากร้านสุริยันจันทรา พี่โอ และ พี่ศิลปินทุกท่าน ที่เอื้อเฟื้อภาพให้นำมาลงในบล๊อคครับ ... ฝันว่าสักวัน จะมีงานศิลป์ของตัวเอง... ในบล๊อคของตัวเอง... :)

         

          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น